5 เรื่องควรระวัง การลงทุนคอนโดที่ทำแล้วมีแต่เจ๊ง
แม้ว่ากระแสการลงทุนหรือเก็งกำไรคอนโดฯช่วงนี้เหมือนจะเงียบๆแต่ก็ไม่ซะทีเดียว ยังมีคอนโดฯบางโครงการที่ฮอตแบบเปิดขายวันเดียว Sold out ก็มีอยู่เรื่อย ซึ่งก็คือการเก็งกำไรคอนโดฯ ที่แบ่งได้หลายชนิด ทั้งการซื้อขายใบจอง การซื้อ-ขายดาวน์แบบบวกกำไร,เท่าทุน แต่การขายขาดทุนดันมีเยอะกว่า แล้วมีสิ่งใดที่ควรทำและสิ่งใดไม่ควรทำสำหรับมือใหม่กันล่ะ ลองดูฉบับย่อที่เราสรุปมาให้กันก่อน
1. วันพรีเซลล์โครงการวันแรก มีคนมาต่อคิวเยอะมากหรือมาก่อนวันเปิดก็มี เห็นแล้วตาลุกวาว เพราะมีคนสนใจเยอะเลยจองมั่ง แต่ยังไม่ได้หาข้อมูลหรือทำการบ้านมาก่อน แล้วที่ไหนได้..ที่เห็นกันเยอะๆเก็งกำไรกันทั้งนั้น เช็คจากเว็บไซต์หรือ เพจ,กลุ่มซื้อ-ขายออนไลน์ แห่กันขายเท่าทุน ขายขาดทุนกันเยอะแยะ
2. ตามกระแส Social ทั้งคนดัง หรือบล็อคเกอร์ ที่บอกว่าดีแบบนั้นแบบนี้ แล้วคล้อยตามแบบไม่หาข้อมูลเองเพิ่มเลย เคสแบบนี้บางทีคนดังอาจถูกจ้างมาโปรโมทก็ได้นะ
3. ไม่ศึกษาเรื่องเครดิต ว่าตนเองมีความสามารถกู้ได้เท่าไหร่ พอถึงเวลากู้แล้วดันกู้ไม่ผ่านเพราะเลือกโครงการแพงเกินความสามารถในการผ่อน หรือมีหนี้สินมากเกินไป ก็ทำให้โดนยึดเงินดาวน์ได้
4. ไม่ศึกษาเรื่องทำเลให้ดี หลายคนเห็นว่าใกล้รถไฟฟ้าก็คิดว่าดีแล้ว ซึ่งบางที่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆเลย เช่น ร้านอาหาร หรือร้านค้า แถมอยู่ใกล้แหล่งงานที่ส่งเสียงและกลิ่นตามมา แบบนี้ใครจะอยากอยู่กันล่ะ
5. โครงการเป็นของบริษัทอะไรไม่รู้จัก ไม่มีประวัติการทำคอนโดฯมาก่อน แบบนี้ถือว่าวัดดวงเลยแหละ
ขออธิบายในส่วนนี้เพิ่ม บริษัท ผู้ประกอบการทุกวันนี้มีเป็นร้อยตั้งแต่บริษัทขนาดใหญ่ทำโครงการปีละ เป็นสิบโครงการ บริษัทขนาดกลางๆ ไปจนถึงบริษัทเล็กๆ ลงทุนทีละโครงการ ซึ่งการเลือกซื้อนั้นแม้ว่า “ชื่อเสียง” จะ ไม่ได้การันตีผลงานได้ทั้งหมด แต่การซื้อคอนโด ของ บริษัทใหญ่อาจมีข้อได้เปรียบมากกว่า เช่น เมื่อต้องการขายต่อ แบรนด์ที่ติดตลาดอาจได้ราคาดีกว่า บริษัทใหญ่ยังต้องดำเนินธุรกิจต่อไปในระยะยาวจึงจำเป็นต้องรักษาชื่อเสียง ไม่กระทำการที่เสี่ยงต่อการทำลายชื่อเสียงของตัวเอง ทั้งนี้นอกจากชื่อเสียงแล้ว ทุนจดทะเบียนบริษัทนโยบายหรือปรัชญาในการทำธุรกิจ หรือโครงการที่ผ่านๆมา อาจเป็นเงื่อนไขการพิจารณาได้ดีเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก : home.co.th